.....23
กันยายน พศ.252...
ลืมตาขึ้นมาดูโลก
ณ
โรงบาลพุทธชินราช
เป็นบุตรของนางอรุณี
เพ็ญสุภา
และนายเกษม
แสงนาค
ศึกษาชั้นประถม
ศึกษาที่โรงเรียนวัดอรัญญิก
และมัธยมต้น
ที่โรงเรียนพุทธชินราชพิทยา
และเรียนต่อที่เทคนิค(ช่างไฟฟ้า)และวิทยาลัยสารพัดช่างไปพร้อมๆกัน
แต่สุดท้ายก็พบว่าสิ่ิงที่ตัวเราเรียนอยู่นั้น....ไม่ได้ตรงกับสิ่งที่เราต้องการเลยจึงหยุดเรียนที่เทคนิค
แต่ก็ยังไม่ทิ้งการเรียนที่สารพัดช่างหลังจากที่จบสารพัดช่างจึงเข้ามาศึกษาต่อที่โรงเรียนบริหาร
ธุรกิจและเทคโนโลยีพิษณุโลกศึกษาต่ออยู่ที่นี่เป็นเวลา
5
ปีเต็มเมื่อจบจากที่นี่แล้วได้สมัคร
เข้าไปรับใช้ชาติที่
ค่ายพหลโยธิน
สังกัดกองร้อยบริการตำแหน่งพลนำสาร
จ.ลพบุรี
เมื่อสิ้นสุดภาระการรับใช้ชาติ
ก็ได้ทำงานอิสระโดยรับงานจากร้านต่างๆใน
จ.พิษณุโลก
ปฏิบัติงานซ่อมอยู่ที่
บ้านเื่ืมื่อซ่อมงานชิ้นใดเสร็จก็โทรให้ลูกค้ามารับไปในช่วงนั้นเป็นช่วงที่
คอมพิวเตอร์กำลังมาแรงทำให้มีปริมาณการสั่งเครื่องคอมพิวเตอร์ประกอปเองจำนวนมาก
ทำให้ข้าพเจ้าเข้าๆออกๆร้านคอมพิวเตอร์หลายต่อหลายที่
จนมีคนรู้จักเป็นจำนวนมากทั้งใน
จ.พิษณุโลก
และ
ต่างจังหวัด
หลังจากนั้นสัก2เดือนเริ่มมีความคิดที่อยากจะลองเปลี่ยนงานดู
........จึงได้เข้าทำงานที่
บริษัท Zion Computer
และได้ประจำอยู่ที่สาขา
พิษณุโลกตลอดช่วงระยะเวลาที่ทำงานได้ศึกษาเกี่ยวกับระบบคอมพิวเตอร์อย่างจริงจังและทุ่มเท
ให้กับการทำงานที่ทำอย่างเต็มที่
พร้อมกันนั้นก็ได้ศึกษาเกี่ยวกับการเขียนโปรแกรมควบคุม
ระบบ Micro Controller
และพัฒนา
ฮาร์แวร์
และซอฟแวร์
บางอย่างขึ้นมา(อะไรนั้นเป็นความลับ)
....แต่เมื่อมาถึงจุดๆหนึ่งผมรู้ว่าผมจะไม่ได้พัฒนาตนเองในเรื่องอื่นๆนอกจากด้าน
เทคโนโลยีเลยจึงตัดสินใจว่า...ต้องเรียนต่อ...ทางด้านระยะเวลาที่ต้องทำงานและด้านเวลาที่
เรียนนั้นขัดกับทางผู้ประกอบการหรือทาง
บริษัท.....ทำให้ต้องเลือกทางใดทางหนึ่ง....
....นั่งคิดอยู่นาน
ห่วงทั้งสองอย่าง
แต่สุดท้ายก็ต้องยอมทุ่มให้กับการเรียนอีกครั้ง
โดยที่ตอนนั้นมีความคิดที่ว่า
"เราจะเดินไปข้างหน้า
ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น"
จึงตัดสินใจเข้้าไปเรียน
ที่ ม.ราชภัฏ
หลังจากนั้นไม่นานจึงได้เข้ามาสมัครและทำงานอยู่ที่โรงเรียนบริหารธุกิจและเทคโน
โลยีพิษณุโลก
ในตำแหน่ง
ครูผู้สอน
ปัจจุบัน...คิดว่าจะทุ่มเทให้กับการเรียนการสอนให้มากให้สมกับที่ได้มาอยู่
ณ.จุดๆนี้
และจะทำให้บางสิ่งบางอย่างค่อยๆพัฒนาควบคู่กันไป....แม้ว่าจะไม่มีใครเห็นก็ตาม
เสกสรรค์
แสงนาค
12 ธ.ค. 47
คติส่วนตัว
ทำให้มากกว่าพูด
และพูดในสิ่งที่ตัวเองทำได้ |