E-Commerce
(พาณิชอิเล็กทรอนิกส์)
คำจำกัดความของ
"พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์"หมายถึง
การดำเนินการค้า
บนระบบเครือข่ายหรืออินเตอร์เน็ตนั่นเอง
การดำเนินธรุกิจการค้าหรือการซื้อขายบนระบบเครือข่ายอินเทอร์เนตนั้น
ผู้ซื้อ (Customer)
สามารถดำเนินการ
เลือกสินค้า
คำนวนเงิน
ตัดสินใจซื้อสินค้า
โดยใช้วงเงินในบัตรเครดิต
ได้โดยอัตโนมัติ
ผู้ขาย(Business)สามารถนำเสนอ
สินค้า
ตรวจสอบวงเงินบัตรเครดิตของลูกค้า
รับเงินชำระค่าสินค้า
ตัดสินค้าจากคลังสินค้า
และประสานงานไปยังผู้จัดส่งสินค้า
โดยอัตโนมัติ
กระบวนการดังกล่าวจะดำเนินการเสร็จสิ้นบนระบบเครือข่าย
Internet
ประเภทของ
E-Commerce
1.
การทำการค้าระหว่าง
Customer (ผู้บริโภคหรือผู้ซื้อ)
กับ Business (ผู้ทำการค้า) เช่น
ลูกค้าต้องการซื้อหนังสือกับร้านค้า
2.
การทำการค้าระหว่าง
Business (ผู้ทำการค้า)
กับ Business (
ผู้ทำการค้า)
เช่น
ร้านขายหนังสือค้าต้องการสั่งซื้อหนังสือจากโรงพิมพ์
3.
การทำการค้าระหว่าง
Business (
ผู้ทำการค้า)
กับ Customer (ผู้บริโภคหรือผู้ซื้อ) เช่น
โรงพิมพ์ต้องการซื้อต้นฉบับจากผู้เขียน
4.
การทำการค้าระหว่าง
Customer (ผู้บริโภคหรือผู้ซื้อ)
กับ Customer (ผู้บริโภคหรือผู้ซื้อ)
ด้วยกันเช่น
ผู้บริโภคต้องการขายรถยนต์ของต้นเองให้กับผู้บริโภคท่านที่สนใจ
ข้อดีข้อเสียของระบบพาณิชย์อิเล็คทรอนิกส์
ข้อดี
1.เปิดดำเนินการค้า
24 ชั่วโมง
2.ดำเนินการค้าอย่างไร้พรมแดนทั่วโลก
3.ใช้งบประมาณลงทุนน้อย
4.ตัดปัญหาด้านการเดินทาง
5.ง่ายต่อการประชาสัมพัธ์โดย
สามารถประชาสัมพันธ์ได้ทั่วโลก
ข้อเสีย
1.ต้องมีระบบรักษาความปลอดภัยที่มีประสิทธิภาพ
2.ประเทศของผู้ซื้อและผู้ขายจำเป็นต้องมีกฎหมายรองรับอย่างมีประสิทธิภาพ
3.การดำเนินการด้านภาษีต้องชัดเจน
4.ผู้ซื้อและผู้ขายจำเป็นต้องมีความรู้พื้นฐานในเทคโนโลยีอินเทอร์เนต
ความสัมพันธ์ของระบบการค้าอิเล็กทรอนิค
E-Commerce
การดำเนินการธุระกิจการค้าบนอินเทอร์เนตหรือ
E-Commerce จำเป็นจะต้อง
มีความสัมพันธ์กับผู้ที่เกี่ยวข้อง
โดยมีการประสานงานกันอย่างมีประสิทธิภาพ
ผู้ที่เกี่ยวข้องในระบบการค้าบนอินเทอร์เนตหรือ
E-Commerce มีดังนี้
ภาพแสดงความสัมพันธ์ของระบบการค้าอิเล็กทรอนิค
E-Commerce
- BANK ทำหน้าที่เป็น
Payment Gateway คือตรวจสอบ
และอนุมัติวงเงินของ
ผู้ถือบัตรเมื่อมี
การสั่งซื้อสินค้า
และ/หรือบริการ
ทาง Internet ผ่านระบบของธนาคารและธนาคารจะโอน
เงินค่าสินค้า
และหรือบริการนั้นๆ
เข้าบัญชีของร้านค้า
สมาชิก
- TPSP
(TRANSACTION
PROCESSING SERVICE PROVIDER) องค์กรผู้บริหาร
และพัฒนาโปรแกรม
การประมวลผลการชำระค่าสินค้า
และ/หรือบริการผ่าน
Internet ให้กับร้านค้า
หรือ
ISP
ต่างๆ
ผ่าน Gateway โดย
TPSP
สามารถต่อเชื่อมระบบให้กับทุก
ๆ
ร้านค้าหรือทุก
ๆ ISP
และทำการ Internet
ระบบชำระเงินผ่าน
Gateway ของธนาคาร
- CUSTOMER
ลูกค้าสามารถชำระค่าสินค้า
และ/หรือบริการได้ด้วย
บัตรเครดิต
บัตรเครดิตวีซ่า
หรือมาสเตอร์การ์ดจากทุกสถาบันการเงินทั่วโลก
ระบบหักบัญชีเงินฝากของธนาคาร
(Direct Debit)
- MERCHANT
ร้านค้าที่ต้องการขายสินค้าและ/หรือบริการ
ผ่านระบบ
Internet โดยเปิด
Home Page บน
Site ของตนเอง
หรือ ฝาก Home Page
ไว้กับ
Web SiteหรือVirtual
Mallต่าง
ๆ
เพื่อขายสินค้าและหรือบริการผ่านระบบของ
ธนาคาร
ร้านค้าจะต้องเปิดบัญชและสมัครเป็นร้านค้า
สมาชิกE-Commerce
กับธนาคารก่อน
- ISP (INTERNET
SERVICE PROVIDER)
องค์กรผู้ให้บริการเชื่อมต่อระบบการสื่อสาร
ทาง
Internet ให้กับลูกค้า
ซึ่งอาจเป็นร้านค้าหรือผู้ใช้
Internet ทั่วไป
โดย ISP รับและจดทะเบียนDomain
หรือ
จะจัดตั้ง Virtual
Mall เพื่อให้ร้านค้านำ
Home Page
มาฝากเพื่อขายสินค้า
ระบบความปลอดภัย
1.Encryption
เป็นการเข้ารหัสและถอดรหัสระหว่างเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ทำกิจกรรมซื้อขายในเครือข่ายอินเทเอร์เนต
หรือระหว่างผู้ขายและผู้ซื้อ
เป็นระบบนี้เป็นที่ยอมรับโดยทั่วไปบนอินเทอร์เนต
2.Authentication
เป็นระบบตรวจสอบ
ซึ่งจะตรวจสอบว่าเป็นผู้ได้รับอนุญาตตัวจริงให้เข้าถึงระบบและบริการ
ในชั้นที่กำหนดให้โดยให้แจ้งข้อมูล
Password ของผู้ได้รับอนุญาต
3.Firewalls
เป็นระบบที่ทำงานร่วมกันระหว่าง
Hard และ
Software
โดย
Firewallsจะวางอยู่ระหว่าง
เครือข่ายภายในองค์กร
(Local
Network)และ
เครือข่ายภายนอก
(Internet)เพื่อป้องกันการบุกรุกจากจากบุคคล
ภายนอกที่ไม่ได้รับอนุญาตเข้ามาขโมยข้อมูลหรือแก้ไขเปลี่ยนแปลงข้อมูล(Hacker)
โดยผ่านทางเครือข่ายภายนอก
(Internet)
4.PKI System
(Public Infrastructure) เป็นกลุ่มข้อ
Security
Servicesซึ่งปกติจัดให้โดย
Certificate
(CA), Authentication, EncryptionและCertificate
Management ใช้เทคโนโลยีการเข้าและถอดรหัส
โดยกุณแจสาธารณะ
ตัวอย่างเว็บ
http://www.shop4thai.com
|